ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (16 พ.ย.) ตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ร่วงลงหลุดจากระดับ 4.5% ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.04% แตะที่ระดับ 104.3490
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 150.5960 เยน จากระดับ 151.3750 เยนในวันพุธ (15 พ.ย.) แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8885 ฟรังก์ จากระดับ 0.8883 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.5805 โครนา จากระดับ 10.5331 โครนา นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3762 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3685 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0856 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0846 ดอลลาร์ในวันพุธ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2416 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2418 ดอลลาร์
ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.473% เมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด และล่าสุดสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 13,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน โดยข้อมูลดังกล่าวเป็นปัจจัยเพิ่มเติมที่สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.2566, ม.ค. 2567 และมี.ค. 2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. 2567