ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่า แม้จนท.เฟดแสดงความเห็นหนุนขึ้นดอกเบี้ย

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (17 พ.ย.) แม้เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากจำเป็น และข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างบ้านในสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งก็ตาม

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.41% แตะที่ระดับ 103.9219 และปิดลดลง 1.60% ในรอบสัปดาห์นี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 149.6650 เยนในวันศุกร์ (17 พ.ย.) จากระดับ 150.5960 เยนในวันพฤหัสบดี, ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 0.8856 ฟรังก์สวิส จาก 0.8885 ฟรังก์สวิส และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าแตะ 1.3717 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3762 ดอลลาร์แคนาดา และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 10.5313 โครนาสวีเดน จาก 10.5805 โครนาสวีเดน

ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0899 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จาก 1.0856 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี และปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2449 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.2416 ดอลลาร์สหรัฐ

นางซูซาน คอลลินส์ ประธานเฟดสาขาบอสตันกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ขณะที่มีหลักฐานเพิ่มมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลงนั้น แต่เธอยังไม่อาจปฏิเสธการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก หากจำเป็น

อย่างไรก็ตาม ความเห็นของนางคอลลินส์ไม่สามารถช่วยหนุนดอลลาร์ เนื่องจากตลาดดูเหมือนได้ปรับตัวรับการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและอาจจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐก็ไม่สามารถช่วยหนุนดอลลาร์ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 1.9% สู่ระดับ 1.372 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.350 ล้านยูนิต และการอนุญาตก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 1.1% สู่ระดับ 1.487 ล้านยูนิตในเดือนต.ค.

ยูโรแข็งค่าขึ้น แม้ยูโรสแตท (Eurostat) ในลักเซมเบิร์กเปิดเผยในวันศุกร์ว่า อัตราเงินเฟ้อต่อปีของยูโรโซน ลดลงสู่ระดับ 2.9% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี หลังจากอยู่ที่ระดับ 4.3% ในเดือนก.ย.