ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (22 พ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ซึ่งบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากภารกิจการควบคุมเงินเฟ้อไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.34% แตะที่ระดับ 103.9241
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 149.5760 เยน จากระดับ 148.3330 เยนในวันอังคาร (21 พ.ย.) ขณะเดียวกันก็แข็งค่าเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8841 ฟรังก์ จากระดับ 0.8838 ฟรังก์, แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3702 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3699 ดอลลาร์แคนาดา และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.4890 โครนา จากระดับ 10.4590 โครนา
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.0884 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0915 ดอลลาร์ และเงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2490 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2540 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 24,000 ราย สู่ระดับ 209,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 225,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 750 ราย สู่ระดับ 220,000 ราย
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากรายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.ซึ่งส่งสัญญาณว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น และไม่มีการบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า
ตลาดเงินนิวยอร์กจะปิดทำการในวันนี้ (23 พ.ย.) เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day)