ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (1 ธ.ค.) หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นที่บ่งชี้ถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลง และการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของสหรัฐลดลงเกินคาดในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.22% แตะที่ระดับ 103.2734
ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะ 146.8800 เยนในวันศุกร์ (1 ธ.ค.) จาก 148.1980 เยนในวันพฤหัสบดี (30 พ.ย.), ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะ 0.8694 ฟรังก์สวิส จาก 0.8752 ฟรังก์สวิสดอลลาร์สหรัฐ, ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 1.3493 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3568 ดอลลาร์แคนาดา และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 10.3762 โครนาสวีเดน จาก 10.4931 โครนาสวีเดน
ส่วนยูโรอ่อนค่าแตะ 1.0872 ดอลลาร์ในวันศุกร์ (1 ธ.ค.) จาก 1.0890 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี (30 พ.ย.) ขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2700 ดอลลาร์ จาก 1.2623 ดอลลาร์
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ดับความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุก โดยระบุเมื่อวันศุกร์ (1 ธ.ค.) ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะประกาศชัยชนะเหนืออัตราเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลงหลังการแสดงความเห็นของนายพาวเวล และได้ถ่วงดอลลาร์ลงด้วย เนื่องจากตลาดมองว่าความเห็นของนายพาวเวลบ่งชี้ถึงแนวโน้มนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย
นอกจากนี้ ดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังเอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐอยู่ที่ 49.4 ในเดือนพ.ย. ลดลงจาก 50.0 ในเดือนต.ค.
ส่วนสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐทรงตัวที่ระดับ 46.7 ในเดือนพ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 47.6 โดยดัชนียังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตสหรัฐ และเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13