ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (15 ธ.ค.) หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดระบุว่า อาจเร็วเกินไปที่เฟดจะพิจารณาเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.58% แตะที่ระดับ 102.5523
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะ 142.1810 เยนในวันศุกร์ (15 ธ.ค.) จากระดับ 141.9480 เยนในวันพฤหัสบดี, แข็งค่าขึ้นแตะ 0.8699 ฟรังก์สวิส จาก 0.8662 ฟรังก์สวิส, และแข็งค่าแตะ 10.2656 โครนาสวีเดน จากระดับ 10.2349 โครนาสวีเดน แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 1.3369 ดอลลาร์แคนาดาจากระดับ 1.3409 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงแตะ 1.0899 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จากระดับ 1.0991 ดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดี และเงินปอนด์ของอังกฤษลดลงแตะ 1.2690 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.2755 ดอลลาร์สหรัฐ
นายจอห์น วิลเลียม ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กได้ดับความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยเขาระบุว่ายังเร็วเกินไปที่เฟดจะพิจารณาเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังแข็งค่าขึ้นขานรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเฟดเปิดเผยในวันศุกร์ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. หลังจากลดลง 0.9% ในเดือนต.ค.
ทั้งนี้ ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค โดยการผลิตของภาคโรงงานและภาคเหมืองแร่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย. ขณะที่ภาคสาธารณูปโภคลดลง 0.4%
เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.0 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 50.7 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนี PMI อยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้การขยายตัวของภาคธุรกิจสหรัฐ
ส่วนกิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนหดตัวต่อเนื่องแบบผิดคาดในเดือนธ.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนใกล้จะเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการขั้นต้นของยูโรโซนจากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) ลดลงแตะระดับ 47.0 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 47.6 ในเดือนพ.ย. และสวนทางกับที่โพลของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าอาจจะขยับขึ้นแตะระดับ 48.0