ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (22 ธ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.13% แตะระดับ 101.71
ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะ 0.8560 ฟรังก์สวิสในวันศุกร์ (22 ธ.ค.) จากระดับ 0.8570 ฟรังก์สวิสในวันพฤหัสบดี (21 ธ.ค.), ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าแตะ 1.3260 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3293 ดอลลาร์แคนาดา และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าแตะ 10.0090 โครนาสวีเดน จาก 10.0989 โครนาสวีเดน แต่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะ 142.5000 เยน จากระดับ 142.2700 เยน
ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.1014 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0998 ดอลลาร์สหรัฐ และเงินปอนด์แข็งค่าแตะ 1.2702 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2684 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์ถูกกดดันจากแนวโน้มที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อชะลอตัวลง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.9% ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.8%
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวลง 0.1% ในเดือนพ.ย. จากระดับ 0.0% ในเดือนต.ค.ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า อาจทรงตัว
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.4% ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.3%
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. จากระดับ 0.1% ในเดือนต.ค.และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.2%
ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)