ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (2 ม.ค.) โดยดอลลาร์ปรับตัวตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.89% แตะที่ระดับ 102.200
ดัชนีดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากปรับตัวลดลง 2.10% ในปี 2566 และลดลง 4.62% ในไตรมาส 4/2566 โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 4% เมื่อคืนนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.6% หลังจากพุ่งขึ้น 1.2% ในเดือนต.ค. และเมื่อเทียบรายปี การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างพุ่งขึ้น 11.3% ในเดือนพ.ย.
เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.9 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. จากระดับ 49.4 ในเดือนพ.ย. และต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 48.2 โดยดัชนี PMI ยังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิต โดยได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน แม้ว่าความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจดีดตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 12-13 ธ.ค.ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ รวมทั้งข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย
ทั้งนี้ สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ในวันนี้ ส่วนวันพฤหัสบดีจะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่วันศุกร์จะมีตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร