ข้อมูลจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า นักลงทุนเทขายกองทุน Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) ออกมาเป็นมูลค่ากว่า 579 ล้านดอลลาร์ภายในช่วงไม่กี่วันแรกนับตั้งแต่ที่กองทุนนี้ได้รับอนุมัติจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ให้แปลงจากรูปแบบทรัสต์เป็น ETF เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนกับ Spot Bitcoin ETF อีก 9 กองทุน ซึ่งดึงดูดเงินทุนสุทธิรวมกันได้เกือบ 1.4 พันล้านดอลลาร์
ข้อมูลเงินทุนไหลออกดังกล่าวเผยให้เห็นภาพผลการดำเนินงานของ ETF ของ GBTC ได้ชัดเจนขึ้น โดยถึงแม้จะมีการซื้อขาย GBTC เป็นมูลค่ากว่า 2.3 พันล้านดอลลาร์ในวันแรก แต่กระแสเงินไหลออกที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าส่วนหนึ่งของโวลุ่มดังกล่าวนั้นมาจากการขาย
นายแซค แพนเดิล กรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัยของ Grayscale กล่าวว่า "Grayscale ครองตลาดการลงทุนบิตคอยน์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลมานานกว่าทศวรรษ ตอนนี้มีผู้ออกผลิตภัณฑ์รายอื่น ๆ เข้ามาในตลาดแล้ว เราจึงได้เห็นการโยกย้ายเงินไปลงทุนในกองทุนใหม่ ๆ บ้าง เป็นเรื่องปกติ มูลค่าสุทธิของเงินที่ไหลเข้าผลิตภัณฑ์การลงทุนบิตคอยน์ทั้งหมดต่างหากที่ส่งผลสำคัญต่อราคา ไม่ใช่การโยกย้ายเงินทุนจากผลิตภัณฑ์หนึ่งไปอีกผลิตภัณฑ์หนึ่ง"
นักลงทุนบางส่วนกำลังโยกย้ายเงินไปยัง Spot Bitcoin ETF อื่น ๆ ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำกว่า โดย GBTC มีสัดส่วนค่าธรรมเนียมสูงถึง 1.5% ทำให้เป็น ETF ที่แพงที่สุดในสหรัฐที่มีการลงทุนโดยตรงในบิตคอยน์ รองลงมาคือ VanEck Bitcoin Trust ที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพียง 0.25%
ขณะเดียวกัน Spot Bitcoin ETF อื่น ๆ ทั้งหมดกลับมีกระแสเงินไหลเข้าสุทธิ เช่น IBIT ของแบล็คร็อคดึงดูดเงินทุนสุทธิเกือบ 500 ล้านดอลลาร์ภายใน 2 วันแรกของการซื้อขาย และ FBTC ของฟิเดลิตี้ได้รับประมาณ 421 ล้านดอลลาร์ ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่ามีดีมานด์มากในการลงทุนบิตคอยน์ในรูปแบบ ETF ที่มีบิตคอยน์จริง ๆ หนุนหลัง แม้จะอยู่นอกเหนือการจัดสรรเงินทุนเริ่มต้นจากผู้ให้บริการกองทุนก็ตาม