ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งแตะระดับสูงสุดรอบ 1 เดือนในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนลดน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.
ณ เวลา 19.46 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ บวก 0.05% สู่ระดับ 103.41 หลังพุ่งแตะระดับ 103.58 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่า 0.04% สู่ระดับ 1.087 เทียบยูโร และดีดตัว 0.34% สู่ระดับ 147.68 เยน
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ก่อนที่เฟดจะเริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ในปลายสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ เฟดจะเริ่มเข้าสู่ช่วง Blackout Period ในวันที่ 20 ม.ค. ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 30-31 ม.ค.
กฎระเบียบของเฟดได้ระบุห้ามเจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นหรือให้สัมภาษณ์ในช่วง Blackout Period เกี่ยวกับนโยบายการเงิน โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่สองก่อนที่การประชุม FOMC จะเริ่มขึ้น และสิ้นสุดในวันพฤหัสบดีหลังการประชุม FOMC เพื่อป้องกันไม่ให้สาธารณชนตีความว่าเป็นการบ่งชี้การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมนโยบายการเงินที่จะมาถึง
นักลงทุนยังคงพากันปรับลดน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. ขณะที่เพิ่มน้ำหนักต่อการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าว หลังจากที่นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกบอร์ดผู้ว่าการเฟด กล่าวว่า เฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วตามที่ตลาดคาดการณ์
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 59.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 63.1% เมื่อวานนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 39.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 34.9% เมื่อวานนี้
นายวอลเลอร์กล่าวว่า เฟดมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อย่างไรก็ดี เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง และไม่รวดเร็วตามที่ตลาดคาดการณ์
"ตราบใดที่เงินเฟ้อไม่ดีดตัวขึ้นและทรงตัวในระดับสูง ผมเชื่อว่าเฟดจะสามารถปรับลดเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ และผมเชื่อว่าเฟดจะดำเนินการอย่างเป็นระบบ และอย่างระมัดระวัง"
"ในวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ผ่านมา เฟดดำเนินการอย่างรวดเร็วและปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวนมาก แต่ในรอบนี้ ผมยังไม่เห็นเหตุผลที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเหมือนในอดีต" นายวอลเลอร์กล่าว
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 7 ครั้งในปีนี้ ขณะที่เฟดคาดการณ์ว่าจะปรับลดเพียง 3 ครั้ง
นอกจากนี้ นายวอลเลอร์ระบุว่า เขาคาดว่าเฟดจะบรรลุเป้าหมายในการทำให้เงินเฟ้อกลับสู่ระดับ 2% แต่เขายังคงขอดูข้อมูลมากขึ้น ก่อนที่จะประกาศชัยชนะเหนือเงินเฟ้อ