ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (19 ม.ค.) หลังบวกขึ้น 5 วันทำการติดต่อกัน แต่ดอลลาร์ยังคงแข็งค่าในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้นักลงทุนปรับลดคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.24% แตะที่ระดับ 103.288 แต่ปรับตัวขึ้น 0.8% ในรอบสัปดาห์นี้
ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากแข็งค่าขึ้นในช่วงเช้าวันศุกร์ โดยดอลลาร์แข็งค่าเนื่องจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐอยู่ที่ 78.8 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2564 เมื่อเทียบกับระดับ 69.7 ในเดือนธ.ค. และสูงกว่าตัวเลขประมาณการที่ระดับ 70.0 ในโพลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์โดยสำนักข่าวรอยเตอร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลง ขณะที่บรรดาเทรดเดอร์ยังคงคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 0.25% ในเดือนพ.ค.
นอกจากนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักต่ำกว่า 50% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. ซึ่งลดลงจากที่เคยให้น้ำหนักสูงกว่า 80%
ยูโรแข็งค่าขึ้น 0.16% สู่ระดับ 1.0891 ดอลลาร์ แต่อ่อนค่าราว 0.5% ในรอบสัปดาห์นี้ โดยถูกกดดันจากการที่เจพี มอร์แกนคาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.จากเดิมที่คาดว่าจะปรับลดในเดือนก.ย.
เยนทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ 148.15 เยน ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมากกว่า 2% เมื่อเทียบกับเยนในสัปดาห์นี้ และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันจันทร์และอังคาร (22-23 ม.ค.) ซึ่งมีแนวโน้มที่จะดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไป
ปอนด์อ่อนค่าลง 0.06% สู่ระดับ 1.27 ดอลลาร์ หลังแตะ 1.2662 ดอลลาร์ โดยถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษร่วงลงมากที่สุดในรอบ 3 ปีในเดือนม.ค.
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค. แม้ว่าขณะนี้นักลงทุนเริ่มให้น้ำหนักใกล้เคียงกันกับการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดหรือคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าว
ล่าสุด นักลงทุนให้น้ำหนัก 53.8% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 70.2% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 44.8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 26.8% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว