ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (30 ม.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และข้อมูลแรงงานหลายรายการของสหรัฐในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.2% แตะที่ระดับ 103.398
ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลงตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีที่ร่วงลงสู่ระดับ 4.053% เมื่อคืนนี้ ก่อนที่นักลงทุนจะรู้ผลการประชุมเฟดซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ (31 ม.ค.) ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งนี้
ขณะเดียวกันนักลงทุนรอฟังการแถลงข่าวของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
นักวิเคราะห์มองว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานของสหรัฐที่ออกมาสูงเกินคาดสะท้อนให้เห็นว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่งมากเกินกว่าที่เฟดจะพิจารณาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 101,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 9.026 ล้านตำแหน่งในเดือนธ.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 8.750 ล้านตำแหน่ง
ตัวเลข JOLTS เป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลแรงงานหลายรายการของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.จาก ADP และในวันพรุ่งนี้สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนในวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนม.ค.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่ง ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 216,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.8% ในเดือนม.ค. จากระดับ 3.7% ในเดือนธ.ค.