ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลักในวันนี้ ซึ่งเป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของเดือนม.ค. โดยดอลลาร์มีแนวโน้มทำสถิติแข็งค่ามากที่สุดเมื่อเทียบรายเดือนนับตั้งแต่เดือนก.ย.2566
ณ เวลา 19.33 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.12% สู่ระดับ 103.52 โดยปรับตัวใกล้ระดับ 103.82 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ขณะที่ดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.06% สู่ระดับ 1.083 เทียบยูโร และแข็งค่า 0.16% สู่ระดับ 147.83 เยน
ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้น 2.1% ในเดือนม.ค. โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้ หลังการกล่าวถ้อยแถลงจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายราย ขณะที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
ตลาดจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในคืนนี้ รวมทั้งให้ความสำคัญต่อถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด หลังเสร็จสิ้นการประชุม เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% ต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันนี้ และให้น้ำหนัก 54.4% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวในการประชุมเดือนมี.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 51.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. ซึ่งจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่ที่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25%
ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ในวันศุกร์นี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. โดยชะลอตัวจากระดับ 216,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ คาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.8% ในเดือนม.ค. จากระดับ 3.7% ในเดือนธ.ค.