ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (12 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.06% แตะที่ระดับ 104.172
ยูโรอ่อนค่าลง 0.1% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.0771 ดอลลาร์ ก่อนที่ยูโรสแตทจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2566 ของยูโรโซนในวันพุธนี้ ขณะที่เงินปอนด์ทรงตัวที่ระดับ 1.2628 ดอลลาร์
นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งจะเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนม.ค.ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 3.4% ในเดือนธ.ค. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 3.9% ในเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI), การผลิตภาคอุตสาหกรรม, ยอดค้าปลีก และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
เมแกน ไวเบอร์ นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกากล่าวว่า นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมั่นใจว่าเงินเฟ้อของสหรัฐกำลังชะลอตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งการที่เจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณว่าจะไม่เร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 52.2% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนพ.ค. จากก่อนหน้านี้ที่เคยให้น้ำหนักสูงกว่า 95%