นายฟาห์มี ฟาดซิล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารมาเลเซีย กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายข้ามคืน (OPR) เพื่อพยุงค่าเงินริงกิตไม่ใช่การดำเนินการที่เหมาะสมในขณะนี้ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อประชาชน
"ผมไม่ทราบว่ามีฝ่ายใดต้องการให้ธนาคารกลางมาเลเซียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย OPR หรือไม่ แต่ผมเชื่อว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่จะช่วยประชาชนในขณะนี้"
"ท่านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมมีความกังวลในเรื่องนี้ และผมไม่คิดว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นเรื่องที่ดีในขณะนี้ แต่สิ่งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของธนาคารกลาง" นายฟาดซิลกล่าว
ถ้อยแถลงของนายฟาดซิลมีขึ้น หลังจากที่ค่าเงินริงกิตของมาเลเซียดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 26 ปีวานนี้ (20 ก.พ.) หรือนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินเอเชีย หรือ "ต้มยำกุ้ง"
ทั้งนี้ ริงกิตทรุดตัวลงราว 0.3% เกือบแตะระดับ 4.8 เทียบดอลลาร์ในการซื้อขายวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 4.8850 เทียบดอลลาร์ในเดือนม.ค.2541 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินเอเชีย
หากนับตั้งแต่ต้นปี 2567 ริงกิตได้อ่อนค่าลงมากกว่า 4% เมื่อเทียบดอลลาร์ โดยได้รับผลกระทบจากการส่งออกของมาเลเซียที่ซบเซา อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอ รวมทั้งการที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นโดยได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ด้านนายอับดุล ราชีด กาฟโฟร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซีย กล่าวว่า การอ่อนค่าของริงกิตแตะระดับต่ำสุดในรอบ 26 ปี มีสาเหตุมาจากปัจจัยภายนอก และไม่ได้สะท้อนถึงเศรษฐกิจของมาเลเซียที่มีแนวโน้มแข็งแกร่ง
นายกาฟโฟร์กล่าวว่า ค่าเงินริงกิตได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอก เช่น การคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ ความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน
ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติมาเลเซีย คาดว่า การส่งออกที่จะเพิ่มมากขึ้น การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และการเพิ่มขึ้นของการลงทุน รวมทั้งการที่รัฐบาลทำการปฏิรูปโครงสร้าง จะช่วยให้ริงกิตแข็งค่าขึ้นในปีนี้
ส่วนนายอาเมียร์ ฮัมซาห์ อาซีซาน รัฐมนตรีคลังคนที่สองของมาเลเซีย กล่าวว่า เขาคาดว่าริงกิตจะแข็งค่าขึ้นในปีนี้ จากสิ่งบ่งชี้ที่ว่าเฟดจะระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย