ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (23 ก.พ.) และปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้เป็นครั้งแรกของปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อดอลลาร์หลังการทะยานขึ้นเกือบ 2 เดือนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยช้ากว่าที่มีการคาดกันไว้ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.02% แตะที่ระดับ 103.936 และปรับตัวลง 0.34% ในรอบสัปดาห์นี้
ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.04% สู่ระดับ 150.45 เยน อย่างไรก็ตาม เยนยังคงเป็นสกุลเงินของประเทศในกลุ่ม G10 ที่ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในปีนี้ ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 6.7% เมื่อเทียบกับเยน
ส่วนยูโรแทบไม่เปลี่ยนแปลง โดยอยู่ที่ระดับ 1.0822 ดอลลาร์
บรรดานักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิ.ย. โดยเลื่อนออกไปจากเดือนพ.ค.ที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ๆ ละ 0.25% ในปีนี้ แต่ตลาดการเงินคาดว่าอาจมีการปรับลดดอกเบี้ยลงถึง 7 ครั้ง
เว็บไซต์แอ็กซิออส (Axios) รายงานการให้สัมภาษณ์ของนายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขานิวยอร์กคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ แม้ข้อมูลเงินเฟ้อและตลาดแรงงานแข็งแกร่งเกินคาดในเดือนม.ค.ก็ตาม
นักลงทุนกำลังรอข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ใหม่ ๆ เกี่ยวกับนโยบายการเงิน หลังจากที่ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในปีนี้จากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และการที่เฟดเตือนไม่ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเร็วเกินไป ในขณะที่พยายามจะทำให้เงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมายรายปีที่ระดับ 2%
สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค.ในวันพฤหัสบดีหน้า (29 ก.พ.) ซึ่งอาจบ่งชี้สัญญาณเงินเฟ้อและแนวโน้มนโยบายของเฟด