ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (27 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) รวมทั้งการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.05% แตะที่ระดับ 104.348
เงินเยนฟื้นตัวขึ้น 0.13% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ แตะที่ระดับ 151.36 เยนต่อดอลลาร์ หลังจากที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 34 ปี ภายหลังจากนายนาโอกิ ทามูระ หนึ่งในกรรมการของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะยังคงอยู่ที่ระดับใกล้ 0% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ที่ผ่านมานั้น นักลงทุนพากันเทขายเงินเยนเพื่อซื้อดอลลาร์ เนื่องจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐยังคงกว้างมาก อันเป็นผลมาจากการที่ BOJ ดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ ซึ่งสวนทางกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงิน
ส่วนยูโรอ่อนค่าลง 0.07% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ แตะที่ระดับ 1.0821 ยูโรต่อดอลลาร์ และเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.06% แตะที่ระดับ 1.263 ปอนด์ต่อดอลลาร์
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE ประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด โดยดัชนี PCE เป็นข้อมูลเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกบอร์ดผู้ว่าการเฟดซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐนิวยอร์กในวันนี้