สกุลเงินลีราของตุรกีอ่อนค่าลง หลังจากที่พรรคการเมืองของประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน แห่งตุรกี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ประสบความพ่ายแพ้อย่างไม่คาดคิดในการเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อวันอาทิตย์ (31 มี.ค.)
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานในวันนี้ (1 เม.ย.) ว่า ค่าเงินลีราของตุรกีลดลง 0.2% สู่ระดับ 32.4295 ลีราต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ณ เวลา 10:08 น. ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าเวลาไทย 4 ชั่วโมง โดยมีการซื้อขายเบาบางเนื่องจากเป็นวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์ในหลายตลาดยุโรป
สกุลเงินลีราได้สูญเสียมูลค่าไปแล้วประมาณ 9% ในปีนี้ ซึ่งเป็นการอ่อนค่าลงมากเป็นอันดับ 2 ในบรรดาตลาดเกิดใหม่ รองจากค่าเงินเปโซของชิลี
หากผลคะแนนสุดท้ายเป็นไปตามการนับคะแนนเบื้องต้น นี่จะเป็นครั้งแรกที่พรรค AKP ของปธน.แอร์โดอันได้คะแนนเสียงน้อยกว่าพรรค CHP ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นทั่วประเทศตุรกี
ก่อนการเลือกตั้ง นักลงทุนกังวลกันว่าถ้าพรรครัฐบาลแพ้ ก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นรวมแล้วถึง 41.50% นับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว จากระดับ 8.50% สู่ระดับ 50% แต่หลังจากเที่ยงคืนผ่านไป ปธน.แอร์โดอันก็ได้กล่าวสุนทรพจน์ยอมรับความพ่ายแพ้และบอกว่าจะนำบทเรียนครั้งนี้ไปปรับปรุงพรรคต่อไป
นายฮัสเนน มาลิก นักกลยุทธ์จากบริษัทเทลลิเมอร์ในดูไบระบุในรายงานว่า "การแพ้เลือกตั้งท้องถิ่นของแอร์โดอันไม่น่าจะทำให้นโยบายเศรษฐกิจมหภาคเปลี่ยนแปลงไป (ในขณะนี้)" และหากปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องเงินเฟ้อ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พรรคของปธน.แอร์โดอันแพ้เลือกตั้งนั้น "การแก้ปัญหาเงินเฟ้อก็จะกลายเป็นเรื่องสำคัญทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งน่าจะเป็นตัวหนุนให้ใช้มาตรการทางเศรษฐกิจแบบปกติเพื่อแก้ปัญหาในระยะสั้น"
ขณะเดียวกัน นายเอ็มเร อัคจักมัก ที่ปรึกษาอาวุโสจากบริษัทอีสต์ แคปปิตอล (East Capital) ในดูไบกล่าวว่า "เรามองว่าช่วงหลังการเลือกตั้งน่าจะเป็นช่วงที่ตลาดผันผวนมากกว่าที่คาดไว้ ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ ช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนเช่นนี้จะเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับตอนที่ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศสุทธิของธนาคารกลางตุรกีต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยติดลบอยู่ที่ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และอัตราเงินเฟ้อก็น่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ทะลุ 70% ในเดือนพ.ค."
ในเดือนมี.ค. ค่าเงินลีราลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินคาดของตุรกีและความต้องการสกุลเงินที่มีความแข็งค่า (hard currency) เช่น ดอลลาร์สหรัฐ ในท้องถิ่นที่เพิ่มขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ทั้งนี้ ธนาคารกลางตุรกี ซึ่งเผชิญกับการลดลงของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ ได้เข้าแทรกแซงด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 5% สู่ระดับ 50% เมื่อเดือนมี.ค.