ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (8 เม.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ส่วนเงินเยนเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 34 ปี ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นอาจจะเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อพยุงเงินเยน
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.15% แตะที่ระดับ 104.140
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับเงินเยน แตะที่ระดับ 151.76 เยนต่อดอลลาร์ หลังจากเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นส่งสัญญาณเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อพยุงค่าเงินเยน
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันพุธนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI เดือนมี.ค.จะเพิ่มขึ้น 3.4% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนก.พ.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ เช่นดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนมี.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (5 เม.ย.) กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 303,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 205,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.8% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.9%
นักวิเคราะห์จากบริษัท CFRA Research ในรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาดทำให้ตลาดมองว่าเฟดอาจจะชะลอเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่าความเป็นไปได้ที่เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยคือเดือนก.ค. จากเดิมที่เคยคาดการณ์ว่าจะเป็นเดือนมิ.ย.