สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานโดยอ้างข้อมูลจากผู้จัดการทรัพย์สินว่า หน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบฮ่องกงได้อนุมัติกองทุน Spot ETF ที่สามารถลงทุนได้โดยตรงในสองสกุลเงินคริปโทฯ อย่างบิตคอยน์และอีเธอร์แล้วในวันนี้ (15 เม.ย.)
รายงานข่าวระบุว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (SFC) ของฮ่องกง ได้มีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ให้บริการกองทุน ETF รวม 3 ราย ออกกองทุน ETF สปอตคริปโทฯ ได้
ด้านบริษัทไชน่าเอเอ็มซี (ChinaAMC) เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯ ได้รับการอนุมัติตามกฎระเบียบในการให้ "บริการจัดการสินทรัพย์เสมือน" โดยขณะนี้กำลังเร่งพัฒนา Spot ETF เพื่อลงทุนในบิตคอยน์และอีเธอร์
ส่วนฮาร์เวสต์ โกลบอล (Harvest Global) และโบเซร่า อินเตอร์เนชันแนล (Bosera International) ก็ได้แจ้งว่าได้รับการอนุมัติเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการฯ ยังไม่ได้ออกมาประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ โดยขณะนี้เป็นเพียงรายงานข่าวจากสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเท่านั้น
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้ฮ่องกงกลายเป็นเมืองแรกในเอเชียที่เปิดขายกองทุน Spot Bitcoin ETF และเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมคาดการณ์เอาไว้อย่างมาก โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการเปิดตัวกองทุนดังกล่าวในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของปีนี้
ทางการฮ่องกงกำลังพยายามสร้างความน่าดึงดูดด้านการค้าทางการเงิน หลังจากสถานะศูนย์กลางการค้าโลกของฮ่องกงมัวหมองเนื่องจากฮ่องกงบังคับใช้มาตรการจำกัดในช่วงโรคโควิด-19, เศรษฐกิจจีนตกต่ำ และความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เปิดตัวกองทุน Spot Bitcoin ETF ในเดือนม.ค. โดยบิตเม็กซ์ รีเสิร์ช (BitMEX Research) ระบุว่า สามารถดึงดูดเม็ดเงินสุทธิประมาณ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
การอนุมัติจัดตั้งกองทุน Spot Bitcoin ETF ทำให้นักลงทุนที่ซื้อกองทุนดังกล่าวสามารถเข้าลงทุนในบิตคอยน์ได้โดยไม่ต้องถือครองโดยตรง และจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้หลีกเลี่ยงการลงทุนในบิตคอยน์ เนื่องจากกังวลว่าบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่ขาดการควบคุมด้านกฎระเบียบจากหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐ