วาณิชธนากรในฮ่องกงตกงานเพิ่มขึ้น เหตุธุรกิจจีนซบเซา-นายจ้างตัดค่าใช้จ่าย

บลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ รายงานว่า วาณิชธนากร (ที่ปรึกษาทางการเงิน) ในฮ่องกงอาจตกงานมากขึ้น เพราะธุรกิจในจีนกำลังชะลอตัว และบริษัทต่าง ๆ ต้องการลดต้นทุนด้วยการลดตำแหน่งงานที่มีรายได้สูง

นายฟรานซิส ชาน นักวิเคราะห์อาวุโสได้ระบุในรายงานที่เผยแพร่ในวันนี้ (22 เม.ย.) ว่า มีนายธนาคารในฮ่องกงประมาณ 200 คนตกงานในปี 2566 โดยนายธนาคารในฮ่องกงได้รับค่าตอบแทนมากกว่านายธนาคารในสิงคโปร์ถึง 40-70% ซึ่งการจ่ายค่าตอบแทนที่สูงเช่นนี้อาจกลายเป็นปัญหาได้ เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ พยายามประหยัดเงิน

นายชานคาดการณ์ว่า อาจมีธนาคารทั่วโลกจำนวนมากขึ้นที่จะลดจำนวนพนักงานในฮ่องกงเพื่อประหยัดต้นทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัว

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทการเงินหลายแห่งทั่วโลกกำลังเลิกจ้างพนักงานแผนกวาณิชธนกิจในเอเชีย เนื่องจากข้อตกลงทางธุรกิจอยู่ในระดับต่ำ ความสัมพันธ์สหรัฐ-จีนย่ำแย่ลง มีการปราบปรามภาคเอกชน และเกิดวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งธนาคารต่าง ๆ เช่น ธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) และธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ได้ปรับลดจำนวนพนักงานในแผนกวาณิชธนกิจแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฮ่องกงและจีน

ผลสำรวจจากเฮย์ส เอเชีย (Hays Asia) ในช่วงปลายปี 2566 พบว่า นักวิเคราะห์และหุ้นส่วนในสายงานวาณิชธนกิจในฮ่องกง ได้ค่าตอบแทนมากกว่าในสิงคโปร์ จีนแผ่นดินใหญ่ และญี่ปุ่นถึง 30-100% ในขณะที่ตำแหน่งกรรมการและกรรมการผู้จัดการมีรายได้มากกว่า 40-70%