ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (6 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อช่วงท้ายตลาด
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.02% แตะที่ระดับ 105.048
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 153.91 เยน จากระดับ 152.94 เยนในวันศุกร์ (3 พ.ค.) และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9060 ฟรังก์ จากระดับ 0.9050 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3660 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3682 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.8071 โครนา จากระดับ 10.8074 โครนา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0775 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0767 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2568 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2551 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงในระหว่างวัน หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 175,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 238,000 ตำแหน่ง ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังอ่อนค่าลงในระหว่างวัน ตามทิศทางอัตราตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำกว่า 4.5%
อย่างไรก็ดี ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในช่วงก่อนปิดตลาด หลังจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อในช่วงท้ายของการซื้อขาย
สำหรับความเห็นล่าสุดของเจ้าหน้าที่เฟดนั้น นายโทมัส บาร์กิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบันจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงมากเพียงพอที่จะฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
ส่วนนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวว่า ในขณะที่เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั้น เขามองว่านโยบายการเงินของเฟดในปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสมมาก