ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (9 พ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.3% แตะที่ระดับ 105.227
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 155.45 เยน จากระดับ 155.61 เยนในวันพุธ (8 พ.ค.) นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9059 ฟรังก์ จากระดับ 0.9081 ฟรังก์, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3677 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3731 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.8505 โครนา จากระดับ 10.9066 โครนา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0781 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0745 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2524 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2495 ดอลลาร์ในวันพุธ
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 22,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2566 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 215,000 ราย
ข้อมูลดังกล่าวเป็นหลักฐานล่าสุดว่าตลาดแรงงานของสหรัฐเริ่มคลายความร้อนแรง หลังจากในสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาดในเดือนเม.ย. และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานลดลงแตะระดับระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีในเดือนมี.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การชะลอตัวของตลาดแรงงานอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้งในปีนี้
นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันที่ 14 พ.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 15 พ.ค.