ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (21 พ.ค.) โดยดอลลาร์ยังคงได้ปัจจัยหนุนจากการที่เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดควรรอหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการชะลอตัวของเงินเฟ้อ ก่อนที่จะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมเฟดในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.05% แตะที่ระดับ 104.62
เจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดควรรอหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการชะลอตัวของเงินเฟ้อ ก่อนที่จะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นายฟิลิป เจฟเฟอร์สัน รองประธานเฟดกล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมธนาคารเพื่อการกู้จำนอง (Mortgage Bankers Association) ในรัฐนิวยอร์กเมื่อวันจันทร์ (20 พ.ค.) ว่า เขาไม่สามารถบอกได้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐจะชะลอตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% แม้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย.จะออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ก็ตาม พร้อมกับแนะนำให้เฟดดำเนินนโยบายอย่างรอบคอบระมัดระวัง
ขณะที่นายไมเคิล บาร์ รองประธานเฟดฝ่ายกำกับดูแลกล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นโดยเฟดสาขาแอตแลนตาว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่มีการเปิดเผยในไตรมาส 1 ปีนี้ ไม่ได้ทำให้เขามีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเฟดควรจะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน พร้อมกับแนะนำให้เฟดใช้เวลามากขึ้นจนกกว่าจะมั่นใจว่าเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
ทางด้านนางลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กเมื่อวานนี้ว่า การที่เงินเฟ้อชะลอตัวลงเพียงเล็กน้อยในไตรมาส 1 ปีนี้ รวมทั้งเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด ทำให้เธอคิดว่าเฟดควรจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานขึ้น
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 64.8% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย.