ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก หลังดีดตัวขึ้นในช่วงแรก ขานรับรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 19.18 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.24% สู่ระดับ 104.69 ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า 0.26% สู่ระดับ 1.085 เทียบยูโร และร่วงลง 0.13% สู่ระดับ 156.56 เยน
ทั้งนี้ เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. ระบุว่า กรรมการเฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และไม่มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงมากพอที่จะทำให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้หรือไม่
นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
"ผมคิดว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงนานกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ เนื่องจากเม็ดเงินจำนวนมากจากมาตรการกระตุ้นทางการคลังยังคงอยู่ในระบบ และยังคงผลักดันสภาพคล่องในตลาด" นายไดมอนกล่าวในการประชุม JPMorgan Global China Summit ที่นครเซี่ยงไฮ้
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 60% ต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้อย่างน้อย 0.25% ในเดือนก.ย.
ต่อคำถามเกี่ยวกับการคาดการณ์ของตลาดต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด นายไดมอนกล่าวว่า "แม้ว่าคาดการณ์ดังกล่าวดูดี แต่ก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป"
ส่วนนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกบอร์ดผู้ว่าการเฟด และเป็นสมาชิกถาวรของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) กล่าวว่า เขายังไม่พร้อมที่จะสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยเขาต้องการเห็นตัวเลขเงินเฟ้อที่ชะลอตัวเป็นเวลาหลายเดือน ก่อนที่จะดำเนินการดังกล่าว
ตลาดจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันที่ 31 พ.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้กำหนดเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ โดยสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)