สกุลเงินเปโซและตลาดหุ้นเม็กซิโกร่วงลงเมื่อวานนี้ (3 มิ.ย.) หลังจากที่พรรคโมเรนา (Morena) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายซ้ายและเป็นพรรครัฐบาลทำผลงานได้ดีเกินคาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกสภานิติบัญญัติเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (2 มิ.ย.) โดยนางคลอเดีย เชนเบาม์ จากพรรคโมเรนา ชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นักลงทุนกังวลว่าพรรคโมเรนาอาจครองเสียงข้างมากถึง 2 ใน 3 ทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งจะทำให้พรรคสามารถผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่ต้องอาศัยเสียงสนับสนุนจากฝ่ายตรงข้าม ซึ่งนำไปสู่ความกังวลว่ารัฐบาลจะออกนโยบายที่ไม่เอื้อต่อตลาดทุน ตลอดจนวิตกว่าการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจพรรครัฐบาลอาจลดลงด้วย
ข้อมูลจาก LSEG ระบุว่า ในช่วงต้นของการซื้อขาย สกุลเงินเปโซร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ที่ 17.754 เปโซต่อดอลลาร์สหรัฐ ร่วงลง 4.29% ก่อนที่จะปิดการซื้อขายที่ระดับ 17.671 เปโซต่อดอลลาร์ ร่วงลง 3.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบวันนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2566
ด้านดัชนีตลาดหุ้นเม็กซิโกปิดร่วงลง 6.1% ขณะที่ดัชนี iShares MSCI Mexico ETF ร่วงลง 10.7%
นายอัลเบอร์โต รามอส หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจลาตินอเมริกาของโกลด์แมน แซคส์ กล่าวในบันทึกถึงลูกค้า "ประเด็นท้าทายหลักสำหรับว่าที่ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนเบาม์ คือการค้ำจุนความเชื่อมั่นของตลาดและสร้างกรอบนโยบายและกฎระเบียบที่คาดเดาได้และเอื้อต่อการลงทุน"
"ท้ายที่สุด รัฐบาลใหม่จะเผชิญกับความท้าทายในการไม่รุกล้ำกิจกรรมของภาคเอกชนและตลาดเสรี และหลีกเลี่ยงไม่ให้คุณภาพของสถาบันต่าง ๆ ถูกกัดกร่อนไปมากกว่านี้"
อย่างไรก็ตาม เจพีมอร์แกนตั้งข้อสังเกตในบันทึกถึงลูกค้าว่า นางเชนเบาม์แสดงท่าทีปรองดองในคำปราศรัยรับตำแหน่ง โดยเธอ "พยายามปลอบประโลมตลาดโดยเน้นย้ำว่ารัฐบาลของเธอจะรับประกันความเป็นอิสระของธนาคารกลาง คงไว้ซึ่งการแยกอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมือง ยึดมั่นในความถูกต้องตามกฎหมาย และรักษาวินัยทางการเงิน"