ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก โดยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ ขานรับตัวเลขภาคการบริการที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดไว้
ณ เวลา 21.51 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.05% สู่ระดับ 104.32 ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า 0.05% สู่ระดับ 1.087 เทียบยูโร และขยับขึ้น 0.01% สู่ระดับ 156.12 เยน
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 53.8 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2566 จากระดับ 49.4 ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50.8
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค.ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. จากระดับ 175,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.9%
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันนี้ตามการคาดการณ์ของตลาด โดยเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.ย.2562
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ทำให้ ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ย.
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมสัปดาห์หน้า และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ในเดือนก.ย. ขณะที่ปรับลดอีกครั้งในเดือนธ.ค.