ดอลลาร์พลิกอ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 22.47 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.04% สู่ระดับ 104.22 ขณะที่ดอลลาร์ปรับตัวลง 0.13% สู่ระดับ 1.088 เทียบยูโร และอ่อนค่า 0.09% สู่ระดับ 155.95 เยน
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 229,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 220,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 750 ราย สู่ระดับ 222,250 ราย
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 1.792 ล้านราย และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.790 ล้านราย
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค.ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. จากระดับ 175,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.9%
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันนี้ตามการคาดการณ์ของตลาด โดยเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.ย.2562
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ทำให้ ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ย.
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมสัปดาห์หน้า และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ในเดือนก.ย. ขณะที่ปรับลดอีกครั้งในเดือนธ.ค.