ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (11 มิ.ย.) ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันนี้ โดยนักลงทุนจับตาข้อมูลดังกล่าวอย่างใกล้ชิดเพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.08% แตะที่ระดับ 105.231
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8972 ฟรังก์ จากระดับ 0.8966 ฟรังก์ในวันจันทร์ (10 มิ.ย.) แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 157.02 เยน จากระดับ 157.08 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3753 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3761 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0743 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0762 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2746 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2733 ดอลลาร์
คณะกรรมการเฟดเปิดฉากการประชุมนโยบายการเงินแล้วเมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.) และจะแถลงมติการประชุมในวันนี้ (12 มิ.ย.) ตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ เฟดจะเปิดเผยรายงานคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจ รวมทั้งการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด โดยนักลงทุนจับตารายงานเหล่านี้อย่างใกล้ชิดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันนี้ แต่นักลงทุนคาดว่าเฟดจะเลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ออกไปเป็นเดือนพ.ย. จากเดิมที่คาดว่าจะเป็นเดือนก.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานจะเพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือนเม.ย. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.6% ในเดือนเม.ย.