ดอลลาร์พลิกอ่อนค่าลง หลังการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาดของสหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 20.47 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.08% สู่ระดับ 105.23 ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า 0.09% สู่ระดับ 1.074 เทียบยูโร และขยับขึ้น 0.08% สู่ระดับ 157.83 เยน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากปรับตัวลง 0.2% ในเดือนเม.ย.
เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนพ.ค.
หากไม่รวมยอดขายรถยนต์ ยอดค้าปลีกลดลง 0.1% ในเดือนพ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.2%
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายต่างกล่าวสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ สอดคล้องกับรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพียง 1 ครั้งในปี 2567 จากเดิมที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในการประชุมเดือนมี.ค.
อย่างไรก็ดี FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือนก.ย.และธ.ค.
ตลาดปริวรรตเงินตราสหรัฐจะปิดทำการในวันพุธที่ 19 มิ.ย. เนื่องในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth) ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองการเลิกทาสในสหรัฐ