เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (20 มิ.ย.) หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมล่าสุด
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.32% แตะที่ระดับ 105.588
เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2671 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2718 ดอลลาร์ในวันอังคาร (18 มิ.ย.) โดยตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กปิดทำการในวันพุธที่ 19 มิ.ย. เนื่องในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth) ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองการเลิกทาสในสหรัฐ
ขณะที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0711 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0743 ดอลลาร์ในวันอังคาร
ส่วนดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 158.80 เยน จากระดับ 158.02 เยนในวันอังคาร นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8909 ฟรังก์ จากระดับ 0.8846 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3689 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3713 ดอลลาร์แคนาดา
เงินปอนด์อ่อนค่าลง หลังจากคณะกรรมการ BoE ลงมติ 7 ต่อ 2 เสียงในการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงสุดในรอบ 16 ปีที่ 5.25% ก่อนการเลือกตั้งของอังกฤษในวันที่ 4 ก.ค.นี้
ขณะนี้ตลาดคาดว่า มีโอกาส 46.5% ที่ BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับ 30% ก่อนการประกาศนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดี
ทางด้านนายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE กล่าวว่า เป็นข่าวดีที่อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% แต่ระบุเสริมว่า ยังเร็วเกินไปที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 238,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 235,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่านั้น เพิ่มขึ้น 5,500 ราย สู่ระดับ 232,750 ราย และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2566
ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 15,000 ราย สู่ระดับ 1.828 ล้านราย และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.810 ล้านราย
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 5.5% สู่ระดับ 1.277 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.38 ล้านยูนิต ส่วนการอนุญาตก่อสร้างบ้านลดลง 3.8% สู่ระดับ 1.386 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.45 ล้านยูนิต
นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ลดลงสู่ระดับ +1.3 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ +5.0 จากระดับ +4.5 ในเดือนพ.ค.