ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจ และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ณ เวลา 20.11 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.15% สู่ระดับ 105.63 ขณะที่ดอลลาร์ดีดตัว 0.21% สู่ระดับ 1.071 เทียบยูโร และขยับขึ้น 0.04% สู่ระดับ 159.68 เยน
นอกจากนี้ ตลาดจับตาปัจจัยการเมือง ได้แก่ การดีเบตระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันศุกร์ตามเวลาไทย รวมทั้งการเลือกตั้งในฝรั่งเศสในวันที่ 30 มิ.ย. และ 7 ก.ค.
นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.7% ในเดือนเม.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนพ.ค. หรือปรับตัวขึ้น 0.0% จากระดับ 0.3% ในเดือนเม.ย.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.8% ในเดือนเม.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. จากระดับ 0.2% ในเดือนเม.ย.
นางมิเชล โบว์แมน ซึ่งเป็นสมาชิกคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และเป็นสมาชิกถาวรของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาปรับลดอัตราดอกเบี้ย และตนเปิดกว้างต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากเงินเฟ้อยังคงไม่ปรับตัวลง
"หากข้อมูลที่เข้ามาบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อกำลังปรับตัวสู่ระดับเป้าหมายของเราที่ 2% อย่างยั่งยืน ก็จะเป็นการเหมาะสมสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อป้องกันไม่ให้นโยบายการเงินอยู่ในภาวะเข้มงวดเกินไป"
"อย่างไรก็ดี เรายังไปไม่ถึงจุดที่มีความเหมาะสมในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย" นางโบว์แมนกล่าว
นอกจากนี้ นางโบว์แมนกล่าวว่า "ดิฉันยังคงพร้อมที่จะปรับเพิ่มเป้าหมายสำหรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมคราวหน้า หากพบว่าเงินเฟ้อได้ชะลอการปรับตัวลง หรือมีการพลิกปรับตัวขึ้น ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ ดิฉันก็ยังคงมีความระมัดระวังในการพิจารณาเปลี่ยนแปลงจุดยืนด้านนโยบายการเงินในอนาคต"