ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่า หลังข้อมูลศก.ซบหนุนคาดเฟดหั่นดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 28, 2024 07:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (27 มิ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา และทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.14% แตะที่ระดับ 105.906

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3693 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3703 ดอลลาร์แคนาดาในวันพุธ (26 มิ.ย.) แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 160.77 เยน จากระดับ 160.70 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8985 ฟรังก์ จากระดับ 0.8973 ฟรังก์

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0706 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0680 ดอลลาร์ในวันพุธ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2645 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2621 ดอลลาร์

สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานซึ่งไม่รวมเครื่องบินและสินค้าด้านอาวุธ ลดลง 0.6% ในเดือนพ.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. โดยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานเป็นข้อมูลที่บ่งชี้ถึงแผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ

ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะเป็นปัจจัยผลักดันให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และยังคงคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ แม้เฟดส่งสัญญาณในการประชุมครั้งล่าสุดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ก็ตาม

นอกจากนี้ สหรัฐยังเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 233,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 236,000 ราย และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2567 ขยายตัว 1.4% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 1.3% แต่ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 1.6%

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานจะปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนเม.ย. และคาดว่าดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ