ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (10 ก.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินทิศทางเงินเฟ้อและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.08% แตะที่ระดับ 105.049
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3622 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3630 ดอลลาร์แคนาดาในวันอังคาร (9 ก.ค.) แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 161.78 เยน จากระดับ 161.31 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8997 ฟรังก์ จากระดับ 0.8979 ฟรังก์
ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0825 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0813 ดอลลาร์ในวันอังคาร และเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2846 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2788 ดอลลาร์
นายพาวเวลได้แถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ว่า "เฟดไม่ใช่ธนาคารกลางที่มีเป้าหมายอยู่ที่เงินเฟ้อเท่านั้น แต่เฟดมีภารกิจในการรักษาการจ้างงานเช่นกัน และเพื่อหลีกเลี่ยงการส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เฟดจะไม่รอจนกว่าเงินเฟ้อปรับตัวสู่เป้าหมาย 2% ถึงจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย"
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 74% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 70% ในวันอังคาร (9 ก.ค.) และเพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดือนที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 45%
นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมิ.ย.ในวันนี้ (11 ก.ค.) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนมิ.ย.ในวันศุกร์ (12 ก.ค.)