บรรดานักลงทุนเทขายกองทุนคริปโทเคอร์เรนซีเป็นมูลค่าเกือบ 500 ล้านดอลลาร์ ขณะที่การร่วงลงของตลาดทั่วโลกทำให้มีการเทขายครั้งใหญ่เป็นครั้งแรกในตลาดคริปโทฯ นับตั้งแต่มีการออกกองทุน ETF คริปโทฯ เมื่อต้นปีนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กเปิดเผยข้อมูลระบุว่า กองทุน ETF ที่ลงทุนโดยตรงในบิตคอยน์มีเงินทุนไหลออก 4 วันติดต่อกันรวม 423 ล้านดอลลาร์ โดยกองทุน Spot ETFs เกือบ 12 กองที่เริ่มการซื้อขายเมื่อเดือนม.ค.นั้น มีเงินทุนไหลออกรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค.
บรรดาสินทรัพย์เสี่ยงร่วงลงทั่วโลก หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอของสหรัฐเมื่อวันศุกร์ (2 ส.ค.) ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งได้เพิ่มความวิตกนอกเหนือไปจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียน และแนวโน้มตลาดที่อ่อนแอลงตามฤดูกาล
สกุลเงินคริปโทฯ ได้รับผลกระทบด้วย โดยบิตคอยน์ร่วงลงกว่า 16% ในช่วง 36 ชั่วโมงที่ผ่านมา และมูลค่าตลาดร่วงลงมากกว่า 1.50 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งทำให้กองทุน ETF มีความน่าดึงดูดใจน้อยลง ขณะที่อีเธอร์ซึ่งเป็นสกุลเงินคริปโทฯ ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 นั้น ร่วงลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2564
ข้อมูลของบลูมเบิร์กบ่งชี้ว่า กองทุน Spot Ether ETFs ซึ่งเริ่มการซื้อขายในเดือนก.ค. หลังได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐนั้น มีเงินทุนไหลออกด้วยเช่นกัน โดยมูลค่าเงินทุนไหลออกสุทธิทั้งหมดของ Spot Ether ETFs นับตั้งแต่เปิดตัวนั้นแตะระดับ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว
แบร์รี่ แนปป์ หุ้นส่วนจัดการของไอรอนไซด์ มาโคร ระบุว่า "คริปโทฯ เหล่านี้เป็นสินทรัพย์เสี่ยง จึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีความผันผวนในสถานการณ์เช่นนี้"