ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (30 ส.ค.) หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐสอดคล้องกับการคาดการณ์ ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคและรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.25% มากกว่าจะปรับลดลงถึง 0.50%
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.35% แตะที่ระดับ 101.699
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะ 146.10 เยนในวันศุกร์ (30 ส.ค.) จาก 144.78 เยนในวันพฤหัสบดี (29 ส.ค.), ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะ 0.8504 ฟรังก์สวิส จาก 0.8460 ฟรังก์สวิส และดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะ 1.3486 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3476 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงแตะ 1.1052 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จาก 1.1079 ดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดี และปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3122 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.3171 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าของสหรัฐในวันศุกร์บ่งชี้ว่า มีโอกาส 31% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในเดือนก.ย. ซึ่งลดลงจาก 35% ในวันพฤหัสบดี
ข้อมูลที่เปิดเผยในวันศุกร์บ่งชี้ว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมาย หลังจากปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. และเมื่อเทียบเป็นรายปี ดัชนี PCE เพิ่มขึ้น 2.5% เท่ากับการเพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย.
ส่วนการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย.