ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์แข็งค่า คาดเฟดลดดอกเบี้ยไม่มาก, เก็ง "ทรัมป์" ชนะเลือกตั้ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 17, 2024 06:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กวันพุธ (16 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงไม่มากนักในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ รวมทั้งการคาดการณ์ว่าโดนัลด์ ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงก่อนการประชุมของธนาคารกลางยุโรป ซึ่งตลาดคาดว่า ECB จะปรับลดดอกเบี้ย

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.32% แตะระดับ 103.589

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 149.78 เยน จากระดับ 149.28 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8654 ฟรังก์ จากระดับ 0.8628 ฟรังก์ ขณะที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3760 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3793 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0856 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0887 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2984 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3068 ดอลลาร์

นักลงทุนรอดูยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือนก.ย. ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของเฟดเกี่ยวกับขนาดหรือช่วงจังหวะของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยขณะนี้ นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% ต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนพ.ย. และเทน้ำหนักเกือบ 90% ต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธ.ค.

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 96.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมเดือนพ.ย. รวมทั้งให้น้ำหนัก 87.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.

ในช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เฟดหลายราย อาทิ ราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดแอตแลนตา และแมรี ดาลี ประธานเฟดซานฟรานซิสโก ออกมาแสดงท่าทีระมัดระวังต่อการปรับลดดอกเบี้ย โดยแสดงความเห็นว่า เงินเฟ้อสหรัฐฯ ลดลงไม่เร็วพอที่จะทำให้เฟดเร่งรีบลดดอกเบี้ย ซึ่งภาวะเงินเฟ้อลดลงหรือการชะลอตัวของภาวะเงินเฟ้ออาจเปิดโอกาสให้ดอกเบี้ยในประเทศอื่นลดลงเร็วกว่าในสหรัฐฯ และสถานการณ์เช่นนี้จะช่วยหนุนดอลลาร์

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้ปัจจัยหนุนจากคาดการณ์ที่ว่า ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า ชัยชนะของทรัมป์จะเป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากแผนการปรับลดอัตราภาษี การผ่อนคลายกฎระเบียบในภาคการเงิน รวมทั้งการตั้งกำแพงภาษีต่อการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีน จะส่งผลกระทบต่อสกุลเงินเอเชีย และจะเพิ่มความผันผวนในตลาดการเงิน ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อดอลลาร์ในที่สุด อีกทั้งมีการคาดการณ์ว่า มาตรการต่าง ๆ ของทรัมป์จะเป็นปัจจัยกระตุ้นเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลให้เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และจะหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

ขณะเดียวกัน เทรดเดอร์รอดูการประชุม ECB โดยนักวิเคราะห์คาดว่าที่ประชุมจะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ หลังเจ้าหน้าที่ ECB เปิดเผยว่า ความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้ผ่อนคลายลงเร็วกว่าที่คาดไว้ และตลาดยังคาดการณ์ด้วยว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในปี 2567


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ