ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กวันพฤหัสบดี (17 ต.ค.) หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแข็งแกร่ง ทั้งยอดค้าปลีกเดือนก.ย. ที่สูงเกินคาด และตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด ขณะที่ยูโรอ่อนค่าหลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย ตามการคาดการณ์ของตลาด
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.23% แตะระดับ 103.824
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 150.28 เยน จากระดับ 149.78 เยน แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.8668 ฟรังก์ จากระดับ 0.8654 ฟรังก์ และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3800 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3760 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0825 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0856 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3008 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2984 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาดีเกินคาด ทั้งยอดค้าปลีกเดือนก.ย. และตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงาน ซึ่งแสดงให้เห็นสัญญาณของความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ
โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค.
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 19,000 ราย สู่ระดับ 241,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 262,000 ราย
ขณะเดียวกัน ตลาดได้ปัจจัยบวกจากคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินทั้งในเดือนพ.ย.และธ.ค.
นักลงทุนเทน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 2 ครั้งที่เหลือในปีนี้ โดยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ทั้งในเดือนพ.ย.และเดือนธ.ค.
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 92.1% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมเดือนพ.ย. รวมทั้งให้น้ำหนัก 84.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.
ขณะที่ยูโรอ่อนค่า หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด โดยคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB แถลงภายหลังการประชุม แสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของ EU ซึ่งมุมมองดังกล่าวเป็นผลดีต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ ธนาคารกลางยุโรปมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันนี้ตามการคาดการณ์ของตลาด ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในปีนี้ หลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิ.ย. และยังเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 2 ครั้งติดต่อกันเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี หลังจากที่ได้ดำเนินการดังกล่าวก่อนหน้านี้ในเดือนธ.ค. 2554
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB ในการประชุมวันนี้ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ระดับ 3.25% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ระดับ 3.65% ส่วนอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์อยู่ที่ระดับ 3.40%
ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันนี้มีสาเหตุจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอของยูโรโซน และอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัว
นอกจากนี้ ตลาดคาดการณ์ว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในปี 2567