ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (25 ต.ค.) และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงการคาดการณ์เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.19% แตะที่ 104.257
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะ 152.25 เยนในวันศุกร์ (25 ต.ค.) จาก 151.83 เยนในวันพฤหัสบดี (24 ต.ค.), ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะ 0.8663 ฟรังก์สวิส จาก 0.8660 ฟรังก์สวิส และเพิ่มขึ้นแตะ 1.3886 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3856 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงแตะ 1.0803 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จาก 1.0823 ดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดี และปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2969 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.2973 ดอลลาร์สหรัฐ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค.
ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 70.5 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 68.9 จากระดับ 70.1 ในเดือนก.ย.
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยรายงานการจ้างงานเดือนต.ค.ของสหรัฐฯ ที่มีกำหนดจะเผยแพร่ในวันศุกร์หน้า โดยคาดว่าข้อมูลจะได้รับผลกระทบจากการนัดหยุดงานประท้วงของพนักงานบริษัทโบอิ้ง (Boeing) และจากพายุเฮอริเคนสองลูกที่พัดเข้าทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ