ดอลลาร์พุ่งขึ้นเทียบสกุลเงินหลัก ใกล้แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการคาดการณ์ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
ณ เวลา 20.14 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.29% สู่ระดับ 104.62 ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่า 0.36% สู่ระดับ 1.077 เทียบยูโร
นอกจากนี้ ดอลลาร์ดีดตัว 0.33% สู่ระดับ 153.79 เยน หลังเยนถูกกดดันจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในญี่ปุ่น หลังจากที่พรรครัฐบาลญี่ปุ่นสูญเสียเสียงข้างมากในการเลือกตั้งทั่วไป
นักวิเคราะห์ระบุว่า ชัยชนะของนายทรัมป์จะเป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากแผนการปรับลดอัตราภาษี การผ่อนคลายกฎระเบียบในภาคการเงิน รวมทั้งการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีน จะส่งผลกระทบต่อสกุลเงินเอเชีย และจะเพิ่มความผันผวนในตลาดการเงิน ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อดอลลาร์ในที่สุด
นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่า มาตรการต่างๆของนายทรัมป์จะเป็นปัจจัยกระตุ้นเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และจะหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้น 3.6% นับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. ทำสถิติปรับตัวขึ้นรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2565
ขณะเดียวกัน การแข็งค่าของดอลลาร์สอดคล้องกับการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีเหนือระดับ 4.3% ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ตลาดจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS), ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร รวมทั้งตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/67 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ในวันศุกร์นี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 111,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 254,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. โดยคาดว่าการจ้างงานในเดือนต.ค.ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนเฮลีนและมิลตันที่พัดถล่มสหรัฐ รวมทั้งการผละงานประท้วงของพนักงานบริษัทโบอิ้ง, เท็กซ์ตรอน และโรงแรมฮิลตัน
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ในเดือนต.ค.