ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (4 พ.ย.) โดยดอลลาร์ปรับตัวตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.27% แตะที่ระดับ 103.884
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 152.15 เยน จากระดับ 152.96 เยนในวันศุกร์ (1 พ.ย.) นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8637 ฟรังก์ จากระดับ 0.8704 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3898 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3925 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ระดับ 1.0879 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0848 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2954 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2958 ดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับตัวลงสู่ระดับ 4.285% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีลดลงแตะที่ระดับ 4.481% เมื่อคืนนี้
นักลงทุนจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันนี้ (5 พ.ย.) ขณะที่ผลการสำรวจจากหลายสำนักบ่งชี้ถึงคะแนนนิยมที่สูสึกันอย่างมากระหว่างคามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต และโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน โดยผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีจะต้องได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งไม่ต่ำกว่า 270 เสียง จากทั้งหมด 538 เสียง
ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า การนับคะแนนเลือกตั้งอาจใช้เวลาหลายวันก่อนที่จะมีการประกาศชื่อผู้ชนะ เช่นเดียวกับการเลือกตั้งในปี 2563 ซึ่งในเวลานั้น โจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตสามารถคว้าชัยชนะเหนือโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 6-7 พ.ย.นี้ ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมครั้งนี้ รวมทั้งให้น้ำหนักกว่า 80% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.