ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (12 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่านโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น และทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.45% แตะที่ระดับ 106.024
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 154.75 เยน จากระดับ 153.77 เยนในวันจันทร์ (11 พ.ย.) นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8824 ฟรังก์ จากระดับ 0.8809 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3946 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3926 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0612 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0651 ดอลลาร์ และเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2736 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2862 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่านโยบายต่าง ๆ ของทรัมป์ ซึ่งรวมถึงการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า และการปรับลดภาษีเพื่อสนับสนุนภาคเอกชนนั้น อาจจะส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น และทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 59% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับที่ให้น้ำหนัก 80% ก่อนที่ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้ง
ส่วนยูโรอ่อนค่าลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองในเยอรมนี รวมทั้งความวิตกที่ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนอาจได้รับผลกระทบจากมาตรการกำแพงภาษีของทรัมป์
รายงานข่าวระบุว่า เยอรมนีจะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 23 ก.พ.2568 เร็วกว่าที่นายโอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประกาศก่อนหน้านี้ว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นในเดือนมี.ค.2568 นอกจากนี้ รัฐสภาเยอรมนีจะจัดการลงมติไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในวันที่ 16 ธ.ค.2567 เร็วกว่าที่นายชอลซ์ประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะมีขึ้นในเดือนม.ค.2568
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยในวันนี้จะมีการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนต.ค. ส่วนในวันพรุ่งนี้จะรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค. จากนั้นในวันศุกร์จะมีการรายงานยอดค้าปลีกเดือนต.ค.และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในงานเสวนาที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ในวันพฤหัสบดีที่ 14 พ.ย. เวลา 15.00 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. เวลา 03.00 น.ตามเวลาไทย