ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (13 พ.ย.) โดยดอลลาร์แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่านโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น และทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรืออาจจะยุติวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหากเงินเฟ้อพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.43% แตะที่ระดับ 106.479
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 155.55 เยน จากระดับ 154.75 เยนในวันอังคาร (12 พ.ย.) นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8859 ฟรังก์ จากระดับ 0.8824 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3999 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3946 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0566 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0612 ดอลลาร์ในวันอังคาร และเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2705 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2736 ดอลลาร์
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 2.4% ในเดือนก.ย. ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับการคาดการณ์ หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือนก.ย.
หลังการเปิดเผยดัชนี CPI นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 82% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่ให้น้ำหนักเพียง 58.7% ก่อนที่จะมีการเปิดเผยดัชนี CPI
อย่างไรก็ดี นักลงทุนคาดการณ์ว่านโยบายต่าง ๆ ของทรัมป์จะส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น และอาจทำให้เฟดยุติวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค. ส่วนในวันศุกร์จะมีการเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนต.ค.และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในงานเสวนาที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ในวันพฤหัสบดีที่ 14 พ.ย. เวลา 15.00 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. เวลา 03.00 น.ตามเวลาไทย