ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (6 ธ.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯในสัปดาห์หน้าซึ่งอาจตอกย้ำ หรือสร้างความไม่แน่ใจเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเดือนนี้
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.33% แตะที่ระดับ 106.055
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 149.97 เยนในวันศุกร์ จาก 150.02 เยนในวันพฤหัสบดี แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะ 0.8789 ฟรังก์สวิส จาก 0.8781 ฟรังก์สวิส และแข็งค่าแตะ 1.4159 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.4028 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงแตะ 1.0555 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จาก 1.0587 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี และปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2735 ดอลลาร์ จาก 1.2757 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับเยนในรอบสัปดาห์นี้ โดยปรับตัวขึ้น 3 สัปดาห์ในรอบ 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับยูโร และยูโรปิดตลาดสัปดาห์นี้ลดลง 0.2% โดยอ่อนค่าลง 4 สัปดาห์ในรอบ 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ ดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ลดลง ซึ่งสะท้อนถึงความจริงที่ว่า ตลาดมองเห็นสัญญาณเพียงพอที่จะคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในเดือนนี้
บรรดานักลงทุนขายดอลลาร์ก่อนหน้านี้หลังจากที่การเปิดเผยข้อมูลแสดงให้เห็นว่า อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 4.2% ในเดือนพ.ย. หลังจากอยู่ที่ 4.1% เป็นเวลาสองเดือนติดต่อกัน
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 202,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 36,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนเฮลีนและมิลตันที่พัดถล่มสหรัฐ รวมทั้งการผละงานประท้วงของพนักงานบริษัทโบอิ้ง
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.2% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 4.1% ในเดือนต.ค. สหรัฐฯ มีกำหนดจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.ในวันพุธหน้า (11 ธ.ค.) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี (12 ธ.ค.)