ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (30 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าเนื่องจากเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมายของเฟด
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.13% แตะที่ระดับ 108.132
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9040 ฟรังก์ จากระดับ 0.9018 ฟรังก์ในวันศุกร์ (27 ธ.ค.) อย่างไรก็ดี ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4359 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4411 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 157.09 เยน จากระดับ 157.94 เยน
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0397 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0428 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2544 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2582 ดอลลาร์
ดอลลาร์ได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าเนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายที่เฟดกำหนดไว้ที่ 2%
นอกจากนี้ คาดว่านโยบายต่าง ๆ ที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะประกาศใช้เมื่อเขากลับเข้าสู่ทำเนียบขาวในฐานะประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ นั้น จะส่งผลให้เศรษฐกิจและเงินเฟ้อขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งจะสนับสนุนให้เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเช่นกัน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐฯ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 79.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2566 และเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 0.9% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนต.ค.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการของสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้าเพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยข้อมูลดังกล่าวรวมถึงตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP), ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร และรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ของเฟด