ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (14 ม.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.61% แตะที่ระดับ 109.280
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9127 ฟรังก์ จากระดับ 0.9191 ฟรังก์ในวันจันทร์ (13 ม.ค.) และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4365 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4412 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 157.94 เยน จากระดับ 157.81 เยน
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0298 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0208 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2200 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2167 ดอลลาร์
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่าดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5% หลังจากปรับตัวขึ้น 3.0% ในเดือนพ.ย.
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.8% หลังจากปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือนพ.ย.
ขณะนี้นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยดัชนีCPI ของสหรัฐฯ ในวันนี้ (15 ม.ค.) เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI จะปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนพ.ย. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบรายปี ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพ.ย.