ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (15 ม.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งอาจเปิดทางให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปีนี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.17% แตะที่ระดับ 109.089
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 156.46 เยน จากระดับ 157.94 เยนในวันอังคาร (14 ม.ค.) และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4329 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4365 ดอลลาร์แคนาดา ขณะเดียวกันดอลลาร์สหรัฐทรงตัวเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9127 ฟรังก์
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0293 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0298 ดอลลาร์ในวันอังคาร ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2231 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2200 ดอลลาร์
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.3% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนพ.ย.
ส่วนดัชนี CPI ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนพ.ย.
ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ชะลอตัวลง และสอดคล้องกับที่กระทรวงได้เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5% หลังจากปรับตัวขึ้น 3.0% ในเดือนพ.ย.
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.8% หลังจากปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือนพ.ย.