ดอลลาร์ดิ่งลงอย่างหนักในวันนี้ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ส่งสัญญาณยกเลิกการตั้งกำแพงภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับผลกระทบจากการที่ปธน.ทรัมป์กดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยทันที
ณ เวลา 19.18 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.39% สู่ระดับ 107.62 หลังจากร่วงลงแตะระดับ 107.46 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า 0.61% สู่ระดับ 1.048 เทียบยูโร และขยับขึ้น 0.05% สู่ระดับ 156.13 เยน
ทั้งนี้ ในการให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว Fox News ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาไม่ต้องการใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษีต่อจีน และเขาคิดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน
ถ้อยแถลงดังกล่าวของปธน.ทรัมป์ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนในวันนี้ และมีแนวโน้มทรุดตัวลงมากกว่า 1.7% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบกว่า 1 ปีเมื่อเทียบรายสัปดาห์
ขณะเดียวกัน ในการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม World Economic Forum (WEF) เมื่อวานนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะกดดันให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
"ผมขอเรียกร้องให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยทันที และเช่นเดียวกัน อัตราดอกเบี้ยควรมีการปรับลดลงทั่วโลกตามเรา" ปธน.ทรัมป์กล่าว
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ไม่ได้ระบุถึงเฟดในถ้อยแถลงดังกล่าวแต่อย่างใด
นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้เร็วขึ้นเป็นเดือนพ.ค. หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กดดันเฟดให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 40.0% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 37.2% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 52.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนพ.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 56.3% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะเดียวกัน นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.5% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 28-29 ม.ค.
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งแรกของเฟดในปีนี้ รวมทั้งจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งอาจบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้