ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์อ่อนค่า ตลาดกังวลนโยบายการค้า-ภาษีทรัมป์

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday January 25, 2025 08:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (24 ม.ค.) และอ่อนค่าลงรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แสดงท่าทีที่อ่อนลงเกี่ยวกับการเก็บภาษีนำเข้าจากจีน ซึ่งได้เพิ่มความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.56% แตะที่ระดับ107.444

ดอลลาร์สหรัฐขยับขึ้นเล็กน้อยแตะ 155.82 เยนในวันศุกร์ (24 ม.ค.) จาก 155.81 เยนในวันพฤหัสบดี (23 ม.ค.), ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 0.9060 ฟรังก์สวิส จาก 0.9068 ฟรังก์สวิส และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 1.4343 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.4362 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0495 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จาก 1.0423 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี และปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2483 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.2360 ดอลลาร์สหรัฐ

ทรัมป์กล่าวกับฟ็อกซ์ นิวส์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า การสนทนาล่าสุดของเขากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเป็นไปอย่างเป็นมิตร และเขาคิดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีนได้

ดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลงมากถึง 0.8% เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันศุกร์ ก่อนที่จะปิดตลาดลดช่วงติดลบลง แต่ยังคงร่วงลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2566 โดยร่วงลง 1.8%

นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่าดอลลาร์อาจจะกลับมาแข็งค่าขึ้นอีก หากนโยบายภาษีและอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เปลี่ยนแปลงไป

"เราคิดว่าดอลลาร์ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อไป" ไซมอน แม็คอดัม รองหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกจาก Capital Economics กล่าว

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีกำหนดประชุมในสัปดาห์หน้า ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายกำลังพิจารณาความเคลื่อนไหวเบื้องต้นของรัฐบาลทรัมป์

ตลาดคาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม แต่เรื่องใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นคือวิธีการที่เฟดจะรับมือกับเคลื่อนไหวของรัฐบาลทรัมป์ที่น่าจะมีผลต่อเศรษฐกิจในปีนี้ ซึ่งรวมถึงการเรียกร้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ