เงินเยนของญี่ปุ่นมีแนวโน้มปิดตลาดเดือนม.ค.ในวันนี้ (31 ม.ค.) ได้อย่างแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2561 โดยได้รับแรงหนุนจากมุมมองที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ ขณะที่ธนาคารกลางของประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกมีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยลง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เงินเยนแข็งค่าแตะ 154.19 เยนต่อดอลลาร์ โดยปรับตัวขึ้นมากกว่า 1% แล้วในสัปดาห์นี้ และมีแนวโน้มแข็งค่า 1.9% ในเดือนนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับตัวขึ้นในเดือนม.ค.ที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 7 ปี
เงินเยนได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ โดยเรียวโซ ฮิมิโนะ รองผู้ว่าการ BOJ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (30 ม.ค.) ว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปหากเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อเป็นไปตามคาดการณ์
เจน โฟลีย์ นักกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยนอาวุโสจากราโบแบงก์ (Rabobank) กล่าวว่า "จากคำพูดของรองผู้ว่าการ BOJ นั้น นักลงทุนที่เชื่อมั่นในเงินเยนดูจะมั่นใจมากขึ้นว่า BOJ จะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2568" โดยเธอคาดว่าอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์/เยนจะอยู่ที่ 145 เยนต่อดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ ข้อมูลที่เปิดเผยในวันนี้แสดงให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในโตเกียวแตะ 2.5% ซึ่งเป็นอัตราเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี ซึ่งตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
ทั้งนี้ ทิศทางดอกเบี้ยของญี่ปุ่นสวนทางกับประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อื่น ๆ โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันพุธ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเมื่อวานนี้ และบ่งชี้ว่าจะปรับลดลงอีกในเดือนมี.ค. เนื่องจากมีความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซามากกว่าความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ บรรดาเทรดเดอร์ยังคาดการณ์ด้วยว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมสัปดาห์หน้า