คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปฏิเสธข้อเสนอของ อเลช มิเฮิล ผู้ว่าการธนาคารกลางของสาธารณรัฐเช็กที่ต้องการให้บิตคอยน์เป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองของประเทศ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แม้ว่าสาธารณรัฐเช็กจะไม่ได้ใช้เงินยูโร แต่ยังคงเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) ทำให้ธนาคารกลางของสาธารณรัฐเช็กมีที่นั่งในสภาทั่วไปของ ECB ซึ่งมีลาการ์ดเป็นประธานและให้คำแนะนำด้านนโยบายการเงินแก่ประเทศสมาชิก
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการนำบิตคอยน์มาใช้เป็นทุนสำรองนั้น ลาการ์ดยืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่มีที่สำหรับสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซีในระบบธนาคารกลางของยุโรป
"ดิฉันเชื่อมั่นว่า...บิตคอยน์จะไม่ถูกนำมาเป็นทุนสำรองของธนาคารกลางใด ๆ ที่อยู่ในสภาทั่วไปของ ECB" ลาการ์ดกล่าวระหว่างการแถลงข่าวหลังการตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB เมื่อวานนี้
ความเห็นของมิเฮิลเมื่อวันพุธที่ผ่านมาได้สร้างความสนใจในแวดวงการเงิน เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วธนาคารกลางต่าง ๆ จะหลีกเลี่ยงสกุลเงินคริปโทฯ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นทางเลือกแทนระบบการเงินอย่างเป็นทางการ
ลาการ์ดกล่าวว่า เธอได้พูดคุยกับมิเฮิลแล้ว และเขาเห็นพ้องว่า ทุนสำรองของธนาคารกลางควรมีสภาพคล่องสูง มั่นคง และปลอดภัย"
แม้ว่าบิตคอยน์มีมูลค่าสูงขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงมีความผันผวนสูงและถือครองโดยกลุ่มนักลงทุนเพียงไม่กี่รายเป็นหลัก
ธนาคารกลางของสาธารณรัฐเช็กแถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (30 ม.ค.) ว่า คณะกรรมการของธนาคารได้อนุมัติการวิเคราะห์เกี่ยวกับการขยายประเภทสินทรัพย์ในพอร์ตทุนสำรองของประเทศ แต่ไม่ได้กล่าวถึงบิตคอยน์
ธนาคารกลางโปแลนด์ประกาศว่าไม่มีแผนลงทุนในสกุลเงินคริปโทฯ เนื่องจากมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงมาก ด้านธนาคารกลางโรมาเนียก็ระบุเช่นกันว่าไม่มีแผนการเกี่ยวกับคริปโทฯ ในตอนนี้
ด้านเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า เฟดไม่ได้รับอนุญาตให้ถือครองบิตคอยน์
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้เสนอแนวทางเชิงรุกด้านคริปโทฯ โดยรวมถึงการสร้างทุนสำรองคริปโทฯ แห่งชาติและสนับสนุนการใช้เหรียญสเตเบิลคอยน์ (stablecoin) ที่อิงกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในระดับโลก